มือใหม่หัดถ่ายภาพ บทที่ 4 การถ่ายรูป โดยใช้ mode ต่างๆ Auto/M/Av,A/Tv,S/P
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้กล้องกึ่งโปร จนถึงกล้องระดับโปรมักจะงงกับโหมดต่างๆ ในกล้องแน่นอน มันอะไรเยอะแยะ
1.เริ่มอธิบายจากโหมด Auto ก่อน คนเคยถ่ายภาพมาบ้างจงจะรู้ว่าโหมดนี้ไว้ทำอะไร มันคือโหมดที่ใช้ง่ายที่สุด กล้องควบคุมทุกอย่างให้หมด ทั้งค่าเอฟ,ค่าความกว้างของรูรับแสงของเลนส์ (Aperture) ความเร็วซัตเตอร์(Shutter speed) และค่า ISO(ค่าความไวของเซนเซอร์รับภาพต่อแสง)
โหมดนี้ใช้งานง่ายที่สุด หมุนมาที่โหมดนี้แล้ว กดซัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพได้เลย ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เหมือนถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ
ข้อดี
เร็ว ไม่ต้องคิดอะไร ได้ภาพแน่นอน
ข้อเสีย
ความคุมอะไรไม่ได้เลย ทั้งความชัดหรือเบลอของแบ๊คกราวด์ และความเร็วซัตเตอร์ ในกรณีต้องการถ่ายภาพกระโดด,สัตว์ หรือกีฬา
2.โหมด M,Manual คือ โหมดที่ตรงข้ามกับโหมด Auto อย่างสิ้นเชิง เราต้องควบคุมทั้ง ทั้งค่าเอฟ,ค่าความกว้างของรูรับแสงของเลนส์ (Aperture,f) , ความเร็วซัตเตอร์(Shutter speed) และและค่า ISO(ค่าความไวของเซนเซอร์รับภาพต่อแสง)เองทั้งหมด ใช้ใหม่ๆ ไม่ง่าย กว่าจะวัดแสงที่ต้องการได้นานมาก แต่เมื่อใช้ไปนานๆ ก็จะชินและวัดแสงได้เร็วขึ้นเอง
ข้อดี
ความคุมได้ทุกอย่างของกล้อง ทั้งค่าเอฟ, ค่าความเร็วซัตเตอร์ และค่า iso ทำให้ได้ภาพดั่งใจมากที่สุด เหมาะแก่การถ่ายภาพในสตูดิโอ ที่มีแสงคงที่ หรือการใช้ flash แยก เพราะไม่ว่าเราเปลี่ยนมุมถ่าย เดินเข้าหาแบบใกล้ หรือไกลก็ได้ค่าแสงที่คงที่เสมอ
ข้อเสีย
ใหม่ๆ ไม่ชินจะถ่ายรูปได้ช้ามาก เพราะต้องเสียเวลามาวัดแสง
Tip สำหรับโหมด M, manual ในการถ่ายภาพ
ลองเซ็ตค่าเอฟ (aperture ขนาดรูปรับแสง) ที่ต้องการ และค่าความเร็วซัตเตอร์(shutter speed) ที่ต้องการ แล้วปรับค่า iso เป็น auto ก็ใช้งานได้มันส์ดีคล้ายๆโหมด Av,A เหมาะแก่การถ่ายภาพทุกประเภท ยกเว้นการใช้ flash แยกและการถ่ายภาพในสตูดิโอ
3.โหมด Tv(Canon) หรือ S (Nikon) โหมดที่คล้ายๆกับโหมด Manual และ auto รวมกัน พูดง่ายๆ คือบางอย่าง auto บางอย่าง manual
สำหรับโหมด Tv,S นี้ เราจะต้องควบคุมความเร็วซัตเตอร์ (Shutter speed) และค่า ISO(ค่าความไวของเซนเซอร์รับภาพต่อแสง)เอง ส่วนค่าเอฟ (Aperture,f) กล้องจะความคุมให้เอง
ข้อดี เหมาะแก่การถ่ายสัตว์ ถ่ายกีฬา ภาพคนกระโดด ที่ต้องการหยุดการเคลื่อนไหวให้ภาพคมชัด หรือว่าถ่ายน้ำตก ถ่ายดาว ที่ต้องการใช้ความเร็วซัตเตอร์ที่ช้ามาก
4.โหมด Av(Canon),A (Nikon) คล้ายๆโหมด Tv,S บางอย่าง auto บางอย่าง manual แต่ตรงข้ามกับ Tv,S
สำหรับโหมด Av,A นี้ เราจะต้องควบคุมค่าความกว้างรูรับแสงของเลนส์(Aperture,f)และค่า ISO(ค่าความไวของเซนเซอร์รับภาพต่อแสง)เอง ส่วนค่าความเร็วซัตเตอร์(Shutter speed) กล้องจะควบคุมให้เอง
ข้อดี เหมาะแก่การถ่ายภาพคนและภาพวิว เพราะโหมดนี้เราสามารถควบคุมค่าเอฟได้ นั่นหมายความว่าเราสามารถควบคุมว่าจะให้ฉากหลังเบลอมากน้อยแค่ไหน
หรือว่าหากถ่ายภาพวิว เราจะสามารถทำให้ภาพชัดทั้งภาพได้
“ค่าเอฟยิ่งน้อย ฉากหลังยิ่งเบลอ เรียกอีกอย่างว่าเอฟกว้าง เช่น f1.4 f2.2 f2.8 ”
“ค่าเอฟยิ่งมาก ฉากหลังจะไม่เบลอ ชัดทั้งภาพ เรียกอีกอย่างว่าเอฟแคบ เช่นf3.5 f4.0 f8.0”
โดยส่วนตัวผมจะใช้โหมดนี้ถ่ายบ่อยมากที่สุด เพราะว่าเสน่ห์ของกล้อง DSLR คือ การความคุมความเบลอของฉากหลัง ค่าความเร็วซัตเตอร์ไม่ต้องสนใจไรมาก ให้ความเร็วซัตเตอร์เร็วพอที่ภาพจะไม่สั่นภาพพอและ (speed shutter 1/200 โดยประมาณ)
ข้อเสีย หากปรับค่าเอฟ(Aperture,f) แคบไป ทำให้ความเร็วซัตเตอร์ช้า อาจทำให้ที่ถ่ายมาสั่นไม่นิ่งได้ ต้องระวังค่า speed shutter ไม่ใช้ช้าเกินไปจนใช้มือถือกล้องแล้วภาพสั่น
5.โหมด P เป็นโหมดที่บริษัทกล้องทำมาเกิน ไม่ต้องใช้ เพราะเหมือนโหมด auto มากๆ อ่านข้ามไปได้ ไม่ต้องจำ เปลืองสมอง
เผื่ออยากรู้
โหมด P นี้กล้องจะควบคุมให้ทั้ง ค่าความกว้างของรูรับแสงของเลนส์ (Aperture,f) และ ความเร็วซัตเตอร์(Shutter speed) เหมือนกัน แต่ค่า ISO(ค่าความไวของเซนเซอร์รับภาพต่อแสง) ต้องตั้งเอง
คือ กล้องจะจับคู่ให้ระหว่าง ค่าความกว้างของรูรับแสงของเลนส์ (Aperture,f) กับ ความเร็วซัตเตอร์(Shutter speed) ให้สัมพันธ์กับค่า ISO(ค่าความไวของเซนเซอร์รับภาพต่อแสง) ที่เราตั้งเอง
ผมพยายามใช้โหมดนี้หลายวาระและโอกาส ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการใช้โหมด P นี้ซักเท่าไหร่ เพราะปรับค่ากล้องยังไงก็แล้วแต่เราก็ต้องมาดูคอยค่า speed shutter กับ ค่า f ตลอดเวลา เหมือนการถ่ายโหมด M,Av,Tv แต่ปรับค่าอะไรไม่ได้เลย(ยกเว้น iso) เพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการและความเคยชิน ใช้ไปใช้มาก็กลับไปใช้โหมดอื่นทุกที
tips : หากเราหมุน dial บนกล้อง เราจะสามารถเลือก ค่า f และค่า shutter speed แบบเป็นคู่ๆ ได้ เช่น
หากเราตั้ง iso ไว้ 400 ที่สภาพแสงในห้อง ในโหมด P แล้วหมุน dial กล้องจะให้เราเลือกทั้งค่า f และ ค่า shutter speed เป็นชุดๆ
shutter speed 1/20 f2.8
shutter speed 1/13 f3.2
shutter speed 1/10 f4
shutter speed 1/6 f4.5
ฯลฯ
ซึ่งทั้งหมดนี้กล้องจะวัดแสงออกมาให้พอดีเหมือนกัน ใช้คู่ไหนก็ได้ แล้วแต่ศรัทธาได้ภาพเหมือนกัน
ข้อดี กำลังหาอยู่
ข้อเสีย ทำให้เราต้องมานั่งขบคิดว่าโหมด P มันมีข้อดีอะไร จะเหมือนโหมด auto ก็ไม่ใช่ ต้องมาคอยดูค่า speed shutter กับ f ตลอดเวลา
ข้อแนะนำสำหรับโหมด P นี้ ถ้าไม่ใช้ โหมด M,Av,Tv ก็ไปใช้ auto เลยดีกว่า
FAQ คำถามที่พบบ่อย
1.ใช้โหมดไหนถ่ายภาพดี
ตอบใช้ได้ทุกโหมดเลยยกเว้นโหมด Auto เพราะโหมด Auto นี้ไม่สามารถควบคุมค่า F ค่า speed shutter iso ได้ ทำให้ไม่สามารถดึงความสามารถของกล้อง DSLR ออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ได้ภาพเร็วที่สุด เพราะยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพได้เลย โหมด Auto นี้ “ได้ภาพ แต่ไม่ได้ดั่งใจ” ไว้ถ่ายเล่นๆ ถ่ายให้ผ่านๆไป ถ่ายให้รู้ว่า”กูถ่ายให้แล้วนะ”
โหมด M เหมาะกับการถ่ายทุกอย่าง แต่ต้องใช้ให้คล่องแคล่วนิดนึง เพราะเราต้องมาปรับค่า F ค่า speed shutter ค่า iso เองทั้งหมด จะค่อนข้างเสียเวลา ไม่ทันใจเวลาถ่ายภาพ แต่ก็ทำให้ได้ภาพดั่งใจมากที่สุด เหมาะแก่การถ่ายภาพในสตูดิโอ ที่มีแสงคงที่ หรือการใช้ flash แยก เพราะไม่ว่าเราเปลี่ยนมุมถ่าย เดินเข้าหาแบบใกล้ หรือไกลก็ได้ค่าแสงที่คงที่เสมอ
โหมด Tv,S เหมาะแก่การถ่ายสัตว์ ถ่ายกีฬา ภาพคนกระโดด ที่ต้องการหยุดการเคลื่อนไหวให้ภาพคมชัด หรือว่าถ่ายน้ำตก ถ่ายดาว ที่ต้องการใช้ความเร็วซัตเตอร์ที่ช้ามาก
โหมด Av,A เหมาะแก่การถ่ายภาพคนและภาพวิว เพราะโหมดนี้เราสามารถควบคุมค่าเอฟได้ นั่นหมายความว่าเราสามารถควบคุมว่าจะให้ฉากหลังเบลอมากน้อยแค่ไหน
หรือว่าหากถ่ายภาพวิว เราจะสามารถทำให้ภาพชัดทั้งภาพได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่มีกฎตายตัวจะใช้โหมดไหนถ่าย อยู่ที่ประสบการณ์และความถนัดของช่างภาพมากกว่าในการเลือกใช้โหมดต่างๆ
2.โหมด auto ใช้ถ่ายอะไร
ตอบ “ถ่ายเมียให้ใช้โหมด Auto ถ่ายพริ้ตตี้มอเตอร์โชว์ให้ใช้โหมด A” ( ̄(エ) ̄)ノ
บทความนี้สงวนลิขสิทธิ์ในการนำไปโพสต่อที่เว็บไซต์ใดๆและสื่อทุกประเภท ยกเว้นการแปะลิงค์ใน facebook และ google+ เท่านั้น หากต้องการนำบทความไปใช้ กรุณาติดต่อมาที่ line:lastproject.photos “ถ่ายเมียให้ใช้โหมด Auto ถ่ายพริ้ตตี้มอเตอร์โชว์ให้ใช้โหมด A” คิดและโพสครั้งแรก ณ ตรงนี้ในเว็บในหน้านี้ ณ เออ